
https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/news_5984002
พิพากษานอกสภา
พิพากษานอกสภา – อภิปรายไม่ไว้วางใจมา 3 วัน รัฐบาลอ้างว่าฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลใหม่ แต่ถามหน่อย เรื่องเก่าๆ นี่แหละ รัฐบาลตอบได้ไหม ทั้งงบทหาร วัคซีน คิงส์เกต รถไฟฟ้า ถุงมือยาง ฯลฯ ชี้แจงให้ประชาชนหายข้องใจหมดหรือยัง
ยกตัวอย่าง รถไฟฟ้าสายสีเขียว 104 บาท คำสั่ง คสช.ทำให้เกิดไฟต์บังคับ ถ้าประชาชนไม่อยากจ่าย ก็ต้องยอมให้ กทม.ต่อสัญญา BTS ถึงชาติหน้า นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ประชาชนอยากรู้ รัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไร ก็ไม่ตอบให้เคลียร์ ได้แต่ลอยหน้าลอยตาอ้างตนเป็นคนดีคนซื่อไม่เอื้อนายทุนผูกขาด
ฝ่ายค้านอภิปรายเป็นระบบ แท็กทีม ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร, สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ชี้ให้เห็นภาพรวมโครงการ 5 แสนกว่าล้าน ที่รัฐบาล 3 ป.ลงทุนเองเกือบทั้งหมดแต่แบ่งเค้กให้เอกชนบริหาร ต่างคนต่างเก็บผลประโยชน์ เป็นปัญหากับผู้ใช้บริการ ซ้ำยัง “กัดกัน” แย่งเค้กสายสีส้ม จนล้มประมูล
รัฐบาลไม่ได้ชี้แจงอย่างเป็นระบบ แค่โยนไปโยนมา อ้างตัวเองไม่ผิด ศักดิ์สยามโยนว่าล้มประมูลเป็นมติ ครม. จุรินทร์ก็เป็นแค่บุรุษไปรษณีย์ ไม่มีอำนาจดูแล อคส.ทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง
ประยุทธ์ก็โชว์ฉลาด โชว์กร่าง เดี๋ยวก็บ่นจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง เดี๋ยวก็ขู่ว่าคนรักทหารมีเยอะ ระวังปาก พูดเรื่อง บอล อยู่วิทยา ก็แขวะคนหนีคดี เดี๋ยวถ้าไม่ได้วัคซีนต้องโทษ ฝ่ายค้าน ทั้งที่หากแอสตราเซเนกาล้มสัญญา ก็เป็นความรับผิดชอบ ของรัฐบาล
ประชาชนหวังอะไรจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ “ข้อมูลเด็ด” น็อกรัฐบาลได้? ทุกยุคทุกสมัยก็ไม่เคยมี ปชป.เป็นฝ่ายค้าน ก็ตัดข่าวมาเรียบเรียงให้เป็นระบบ เสริมข้อมูล เพิ่มน้ำหนัก ด้วยฝีปากลีลา “หมัดน็อก” เซอร์ไพรส์มีครั้งเดียว คือพับกระดาษครึ่งใบอภิปรายสัญชาติเตี่ยบรรหาร ซึ่งคว่ำรัฐบาลได้เพราะจ้วงหลังกันเอง
ทุจริตหาใบเสร็จได้ด้วยหรือ เห็นแต่จับทักษิณเซ็นชื่อให้เมียซื้อที่ดินติดคุก 5 ปี แล้วใครจะจับ “หลวงพี่ป้อม” ทั้งที่เป็นข่าวเอิกเกริกว่า พปชร.มีเงินเดือนให้ ส.ส.
ภารกิจหลักของฝ่ายค้าน จึงเป็นการสรุปปัญหาข้อข้องใจ มาซักไซ้รัฐบาลอย่างเป็นระบบ ซึ่งต้องวัดกันว่าตอบเคลียร์ หรือไม่ แม้ต้องให้เวลา เพราะบางประเด็นอาจตั้งตัวไม่ทัน แต่บาง ประเด็น เช่น วัคซีน รถไฟฟ้า ถุงมือยาง ก็รู้แก่ใจไม่ใช่หรือว่าต้องถูกอภิปราย
ต่อให้ฝ่ายค้านมีหมัดเด็ด ถ้าพรรคร่วมไม่แตกกัน ก็ไม่มี ทางล้มรัฐบาลได้ แม้มีกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยออกมาขู่ ก็รู้กันว่า “โก่งค่าตัว” อยากกินกล้วยหรือต่อรองเก้าอี้ เป็นเช่นนี้ทุกยุคสมัย
พรรคฝ่ายค้านจึงไม่ได้อภิปรายให้ ส.ส.ไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่อภิปรายให้ประชาชนฟัง ชี้ให้เห็นความไม่ชอบธรรม เสื่อมศรัทธา สร้างกระแสบีบรัฐบาลให้ปรับ ครม. ลาออก หรือยุบสภา
แต่รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลปกติ อยู่ในเงื่อนไขพิเศษ อำนาจพิเศษ ตีกรอบบังคับ ทั้งด้วยรัฐธรรมนูญ 250 ส.ว. ยังไงๆ ก็โหวตตู่ ทั้งด้วยอำนาจพันลึก ที่พรรคร่วมไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
ฝ่ายค้านอภิปรายให้ตายก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจ ส.ส.ได้ เพียงแต่ถ้าสร้างน้ำหนัก มัดแน่น รัฐบาลไม่สามารถชี้แจง ตะแบงไปเรื่อย ก็จะทำให้พลังนอกสภา อย่างม็อบราษฎร 20 ก.พ. ยิ่งโกรธแค้น
นี่คือปัญหาของระบอบประชาธิปไตยปลอม ไม่ปกติ ถูกบล็อกไม่ให้เป็นไปตามความนิยม อำนาจที่ไม่ได้มาจากเลือกตั้งทำลายคะแนนของประชาชน จากที่พรรคฝ่ายค้านจะได้ ส.ส.มากกว่า กลับแพ้สูตรปาร์ตี้ลิสต์ แพ้ยุบพรรค ดูด ส.ส. จนไม่มีทางสู้
แล้วจะให้ประชาชนหวังการเปลี่ยนแปลงตามระบอบรัฐสภาได้อย่างไร ถ้ามีอารมณ์ร่วมกับการอภิปรายของฝ่ายค้าน แล้วเหลืออดกับปาห่โหวตลงคะแนน ก็มีแต่ต้องไปม็อบ เพื่อระบายความโกรธแค้น
กระนั้น จะม็อบเรียกร้องให้ประยุทธ์ยุบสภาลาออกก็เปล่าประโยชน์ เลือกตั้งใหม่ 250 ส.ว.ก็โหวตตู่กลับมาเหมือนเดิม
ครั้นจะแก้รัฐธรรมนูญ ก็ไม่สามารถเป็นไปตามเจตจำนงประชาชน ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนว่า ประชาชนสามารถเลือก ส.ส.ร.มาแก้รัฐธรรมนูญมีชัย คสช. ทั้งฉบับ ได้หรือไม่
ได้หรือไม่ยังไม่ทราบ แต่แปลว่าตุลาการ 9 คนมีอำนาจ ชี้ว่า การที่ประชาชนต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับนั้น เป็นความผิดฐาน “ล้มล้างระบอบการปกครอง” (หรือไม่)
การให้อำนาจไว้เช่นนี้ เท่ากับรัฐธรรมนูญรัฐประหาร ห้ามแก้ อยากแก้อาจมีความผิด ต้องรอเกิดรัฐประหารใหม่ จึงฉีกรัฐธรรมนูญได้
น้ำหนักจากการอภิปรายของฝ่ายค้าน จึงระบายออกไปสู่การเคลื่อนไหวนอกสภา ข้อจำกัดของระบอบรัฐสภา ที่ฝ่ายค้าน ทำอะไรไม่ได้มาก จึงทำให้พลังนอกสภาร้อนแรงแหลมคม ยิ่งกว่าฝ่ายค้าน เงื่อนไขต่างๆ ที่ตีกรอบพันธนาการ ก็บีบให้ม็อบคนรุ่นใหม่ทะลุเพดาน
ระบอบอำนาจนี้ต้องการบีบให้ประชาชนยอมจำนน ไม่มีทางสู้ ใครต่อต้านเป็นพวกส่วนน้อยที่มุทะลุ สุดโต่ง ใช้กฎหมาย และกระบองจัดการ
ไม่ยักมองว่าการใช้อำนาจบีบคั้นอย่างนี้ล่อแหลม ภายใต้ปัญหาเศรษฐกิจและการบริหาร ที่จะประสบมรสุมอีกยาวไกล มีอะไรที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นได้อีกเยอะ
7 ความเห็น
ชุมนุม'7ปีแห่งความล้มเหลว' คู่ขนานอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เริ่มแล้ว!! กลุ่มม็อบเฟสต์ ชุมนุม MOB FEST #2 ตอน “7 ปีแห่งความล้มเหลว” คู่ขนานการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตร.ตรึงกำลังรอบรัฐสภา
ศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 17.50 น.
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณแยกเกียกกาย และโดยรอบรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ หลังจากกลุ่มม็อบเฟสต์ นัดหมายชุมนุม MOB FEST #2 ตอน “7 ปีแห่งความล้มเหลว” คู่ขนานการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะมีการอภิปราย 10 ประเด็นเร่งด่วนโดยประชาชน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยพื้นที่บริเวณรอบอาคาร และบริเวณประตูทางเข้าออกร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภา รวมทั้งมีการนำแผงเหล็กมาวางกั้นฝั่งถนนทั้งสองรอบอาคารรัฐสภา นอกจากนี้ได้มีการเปิดการจราจรเพียง 2 ช่องทางเท่านั้นที่จะมุ่งหน้าไปบางกระบือ ในส่วนของการดูแลรักษาความปลอดภัยได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนทำหน้าที่ดูเเลความเรียบร้อย โดยมีการทยอยวางเครื่องกีดขวางพร้อมติดตั้งแนวกั้นรั้วสังกะสี
ในส่วนของทางฝั่งมวลชนได้มีการนำรถปราศรัยซึ่งเป็นรถบรรทุกหกล้อติดตั้งเครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่มาจอดไว้ที่บริเวณฝั่งตรงข้ามบ.บุญรอด เพื่อทำกิจกรรมในเย็นวันนี้ พร้อมนำรูป 10 รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้มาแขวนไว้ ประกอบไปด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์, นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ทั้งนี้ในส่วนของกิจกรรมที่กลุ่มมวลชนจะเริ่มในเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/politics/826456
....หมอชลน่าน สรุปได้แสบสันต์.....เป็นผมก็คงต้องโหวตกับฝ่ายค้าน
ไอ้เห้ตู่ออกไป